Thursday, May 26, 2011

ภาษาภูเก็ตวันล่ะหลายคำ - เรียนจากเพลง

โพสนี้ประกอบไปด้วยประโยคท้องถิ่นหากท่านมีข้อสงสัย ประการใดโปรดสอบถาม ผู้ชมที่ไม่เข้าใจภาษาภูเก็ต โปรดใช้ ผู้ปกครองในการแนะนำ...เอ้ย ไม่ใช่สิ



อย่าจั้วได้มั้ยตนอั้น


"ทำหรอยแต่ไม่ยอมทำไหรหยิ่งอีตายก็เขาเรียกว่าจั้ว" 
แค่ประโยคแรกก็โดนแล้ว สำหรับคนภูเก็ต  



  • ทำหรอย : แปลว่า ทำเท่ห์   (จริงๆ คำว่าหรอย เนี้ยแปลว่า ดี สุดยอด สุโก้ย???)  ประโยคตัวอย่าง เราอาจจะได้ยินคำว่า "หรอยนิตนอั้น" แปลได้ว่า โอ้ว...พระเจ้าจ้อด..คุณยอดมากเลย.. 
       คำว่าหรอย อาจจะมาจากคำว่า อร่อย เพราะเวลาถามเรื่องอาหาร คนภูเก็ตเราจะ ถามว่า "หรอยม้าย" ซึ่งแปลว่า อร่อยมั้ย แต่คำนี้สามารถใช้ได้ทั่วไป ที่มีความหมายบวก  positive อย่างแรง อย่างเช่น 

อ๊ะ.. เดินไปกับแฟนไปโรงหนังเริงจิต (เฮ้ย...บ้านนอกมาก)  โอเค...เอาใหม่ เทคสอง ........action 
อ๊ะ.. เดินไปกับแฟนที่โรงหนัง SFX CINEMA (ไฮโซขึ้นมาทันที) จะเลือกดูหนังอะไรดี  หันไปถามแฟน 

"นุ้ยๆ นิ ตนว่าเรื่องนี้หรอยม้าย?"  มันเป็นประโยคคำถาม ที่ถามว่า 
"นี่เธอเรื่องนี้สนุกมั้ย"

  • จั้ว : โดยความหมายจริงๆ มันจะแปลว่า ขี้เบ่ง ขี้โม้ คุยโว้ เชิ่ด วางมาด.... อืมๆ...ประมาณนั้น แต่คำว่าจั้วเนี้ยมันเป็นคำเดียวสั้นๆ ที่รวมทุกอย่าง ที่เกี่ยวกับคำที่กล่าวมาเอาไว้ในคำเดียว แต่จั้วจะมีความหมายในเชิง ลบนิดๆ แอบด่าหน่อยๆ





ประโยคนี้เลย แปลภูเก็ตเป็นไทย ก็จะประมาณว่า 


"มัวแต่เก้กท่า แต่งานการไม่เดิน และยังมาทำเชิดอีก ...ไอขี้เก้ก........."


ประโยคต่อมา

"โครงการกะลุยเสียเหม็ดทำไม่เสร็จแล้วมานั่งเจ็บหัว
รู้แล้วว่าตนเก่งหลายอย่างทำทีอย่างต๊ะจะได้ไม่มั่ว"


  • กะลุย : มาจากคำว่า "กะลักกะลุย" เรียกสั้นๆว่า "กะลุย" แปลว่า เยอะแยะมากมาย  ถ้าเยอะมากแบบ ประมาณค่าไม่ได้เนี้ย จะลากเสียงยาวๆ ๆปเลยว่า "กาาาาาาาาาาาลัก กาาาาาาาาลุยเหม็ด"
อันนี้อาจจะโด๊น โดน โน ใครหลายคน แปลได้ว่า มีโครงการเยอะแยะมากมายเลย แต่ทำไม่เสร็จ ไม่ดีซักอย่าง แล้วก็มานั่งกุมขมับปวดหัว ให้ค่อยๆทำไปทีละอย่าง อย่าโลภ..."อย่าจั้ว" น่ะจะได้ไม่มั่วไม่ปวดหัว หลาว.... 

เหมือนดีแต่พูด ดีแต่ปาก งานการไม่ทำ มัวแต่นั่งกินเงินเดือน หนักแผ่นดิน กระดิกเท้าไปมา ผมทำเพื่อพี่น้องงงงงงงงงง!!!!
เอ้ย.... ไม่โมโหใครมามั้ยนิ


โอเค.... เรามาแลกัน ประโยคต่อไป

"ตอนเช้าก็ไปทำงานสาย พอตอนบ่ายก็กลับบ้านก่อนเพื่อน ตำแหน่งก็เป็นถึงหัวหน้าแต่ชอบด่าลูกน้องต่อหน้าเพื่อนพอลูกน้องขอขึ้นเงินเดือนผลัดไปผลัดมาเป็นเดือน
ทำแชเชือนเราเอือนอีตาย"



โอ้ยยยย...... ไป แทงใจดำใครบ้างเนี้ย ...ฮ่าๆๆๆ.... แทบจะไม่ต้องแปลเลย ประโยคนี้ แต่มีคำคำนึงอยากให้ได้รู้กัน คือ คำว่า 



  • "เอือน" ซึงหมายถึงเบื่อ น่าเบื่อ  
เอือนอิตาย   ไอย่ะ แปลว่าเบื่ออย่าแรง ...  เอือนอิ๊  ต้องมี อิ๊ ด้วยภูเก็ตของแท้ อั้น 

เย้...ภาษาใต้วันล่ะคำบทที่ 1 แล้วเป็นอย่างไรกันบ้างก็ติชม กันได้ 

จริงๆ แรงบันดาลใจจากการเขียน นี้คือ แฟนผมเองแหละ...คือ มีบางช่วงที่เค้า งงๆ กับคำพูดเรา เพราะเขาไม่ใช่คนภูเก็ต 
ก็เลย..เอาเรื่องที่เคยสอน เค้าว่าจะมาเขียน ลง web ดูน่ะ จะได้อนุรักษ์ ภาษาไม่ให้หายไปกับกาลเวลาด้วย
ยังไงก็ฝากไว้ด้วยน่ะครับว่า ไม่ว่าจะภาษาถิ่นไหน ก็มีเอกลักษณ์ เป็นของตัวเอง การอนุรักษ์ไม่จำเป็นต้อง ยึดแบบแผนเดิมเสมอไป เราสามารถนำมาประยุกได้ สิ่งที่ทำได้คือเผยแพร่มันออกไป อย่าเก็บมันเอาไว้ เผื่อจะมีบางคนเห็นคุณค่า และนำไปเผยแพร่ต่อ .... ไม่แน่น่ะ ต่อไปเราอาจจะเห็นคนเกาหลี พูดไทยกันมากขึ้นก็ได้ อิอิ.....







Uncle Sam คือใคร เกี่ยวอะไรกับ U.S.Army


Uncle Sam คือใคร เกี่ยวอะไรกับคำว่า U.S.Army

ที่มาของคำว่า U.S หรือ เมือง ลุงแซม
เขาคือใคร….ทำไมต้องเป็น ลุงแซม ไม่ใช่ ลุงจอร์จ ….โฮ้วซาร่า… หรือลุงปีเตอร์ โฟ อะ โฟ โฟดิฟายยยยยย….​เอ้ย…
ซึ่งลุงแซม นั้นได้กลายมาเป็นมุขตลกขำขันอิงประวัติศาสตร์จากทางอเมริกา นู้นนนน…….

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว….ในปี 1812 ณ เมืองทรอย, สมัยที่อเมริกากำลังทำสงครามกับอังกฤษ (ฟิ้ววววว….ตู้มมมมม)
เมืองทรอย เป็นเมืองที่สำคัญมาก สำหรับอเมริกาในการขยายอาณาเขตขึ้นไปยังทางเหนือ และตะวันตก
มีพ่อค่าคนหนึ่งในเมืองทรอยนามว่า Samuel Wilson เป็นพ่อค้าที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจค้าเนื้อสัตว์ โดยนิสัยส่วนตัวเขาเป็นพ่อค้าที่มีวินัยและอารมณ์ขัน เป็นที่รักและชื่นชมของเพื่อนๆ  และใครๆก็เรียกเขาว่า  “Uncle Sam”และลุงแซมคนนี้เอง เป็นคนที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลในการส่งเสบียงอาหาร เพื่อไปเลี้ยงปากท้อง แก่กองทัพอเมริกาในเมืองทรอย
อยู่มาวันนึงเจ้าหน้าที่จากทางการ ได้เข้ามาตรวจดูความเรียบร้อย และเยี่ยมชมโรงงานของลุงแซม  เจ้าหน้าที่ได้สะดุดกับคำว่า U.S. บนลังสินค้า และถามพนักงานในโรงงานว่า คำว่า U.S นี้หมายถึงอะไรเหรอ
(แน่นอนมันต้องหมายถึง U.S Army = united state Army อย่างแน่นอน เพราะ ส่งสินค้าให้ทางกองทัพนิ )
แต่พนักงานกลับตอบไปว่า “อ๋อ… มันมาจาก U.S  =  Uncle SAM ไง เจ้าของที่นี้น่ะ”
กร้ากกกกก………….
เจ้าหน้าที่ก็ได้แต่ขำ ในความขี้เล่นของพนักงาน และมันก็ได้กลายมาเป็นมุขตลก ที่โด่งดังของทางฝั่งอเมริกา ที่ว่า
Unite state = U.S. = Uncle sam
ตั้งแต่บัดนั้น จึงเป็นที่มาของเมืองลุงแซม
ในปี 1916  หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้ ตีพิมพ์โปสเตอร์เชิญชวนการสมัครทหาร ของทางอเมริกา โดยตั้งชื่อว่าโปสเตอร์ uncle Sam โดยวาดรูปเป็นรูปชายแก่คนหนึ่งยืนชี้นิ้ว และ มีตัวหนังสือ กำกับว่า “I want you for U.S. Army” และกลายเป็นโปสเตอร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดรูปหนึ่ง  “oh Uncle Sam Want you really?”